เดินทาง: มิถุนายน 2019 ระยะเวลา 4 วัน
ทัสคานีเป็นส่วนหนึ่งของทริปอิตาลีที่กินเวลา 3 สัปดาห์ แต่แตกออกเป็นหลายตอนเพื่อให้อ่านง่าย (สนใจอ่าน Cinque Terre 5 หมู่บ้านชายทะเลของอิตาลี ที่สวยงามเหมือนภาพ Postcard https://www.gooutseeworld.com/post/cinque-terre-italy ) เป็นเส้นทางที่ได้มีโอกาสไปหลายครั้ง แต่ไม่เคยถ่ายภาพดีๆสักครั้ง รอบนี้จึงตั้งใจไปเป็นส่วนหนึ่งของทริปถ่ายภาพที่ไปเก็บภาพ Landscape โดยเฉพาะ และด้วยเหตุนี้จึงได้ภาพในช่วงที่สวยที่สุดของทัซคานีในช่วงต้นฤดูร้อน สำหรับคนที่เคยไปหลายครั้งแต่รู้สึกเหมือนผู้เขียนที่ยังไม่เห็นช่วงที่สวยที่สุดโปรดอ่าน Behind the Scene ด้วยท้ายสุดของบทความ
Tuscany ทัสคานีตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ภาคกลางของอิตาลี โดยมีเมืองหลักคือ Florence ฟีเรนเซ่หรือฟลอเร้นซ์ มีประว้ติยาวนานและได้ชื่อว่าเป็นจุดกำเนิดของยุค Renaissance ปัจจุปันมีเขตอนุรักษ์ทางธรรมชาติอยู่ถึง 120แห่ง และเมืองที่เป็นมรดกโลกถึง 5 แห่ง รวมถึงเมืองเซียน่า Siena ที่เราไปในครั้งนี้ด้วย
Tuscany ทัสคานีบูมมากหลังจากหนังสือ Under the Tuscan Sun เขียนโดยนักเขียนชาวอเมริกัน Frances Mayes เล่าเรื่องการใช้ชีวิตแบบชนบทในทัสคานีซึ่งเธอซื้อวิลล่าเก่ามาปรับปรุงและเรียนรู้วิธีทำอาหารอิตาเลียนแท้ๆ หนังสือตีพิมพ์ในปี 1996 ผู้อ่านตามรอยมาเที่ยวกันมากมาย หลังจากนั้นภาพทุ่งนาสีทองไล่บนไหล่เขา และบ้านสไตล์ทัสคานีที่มีต้นสนไล่เป็นทิวยาวตรงทางเข้าบ้าน ซึ่งสวยงามเหมือนภาพสีน้ำมันแพร่กระจายไปทั่วโลก ยิ่งทำให้ชาวโลกหลั่งไหลกันเข้ามาไม่ขาดสาย พูดจริงๆว่า ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหา การมาใช้ชีวิตที่ทัสคานีน่าจะเป็นชีวิตที่รื่นรมย์ มองไปทางไหนก็สวยไปหมด เหมือนนั่งดูงานศิลป์ในหอศิลปโดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน สัก 2-3 เดือน เพราะมองไปทางไหนก็สวยไปหมด เห็นเป็นชนบทแบบนี้ ค่าเช่าบ้านแพงมาก เพราะคนจากทั่วโลกต้องการมาเยือนที่นี้
ทัสคานีมีเมืองหลายเมืองแต่รอบนี้เราเน้นไปที่จุดถ่าย Landscape รูปแถว Val d'Orcia และเมืองมรดกโลก Siena
หากดูบน google map จะเห็นสัญญาลักษณ์รูปกล้องที่บอกจุด view point เพื่อให้ตากล้องมาตั้งกล้องถ่ายรูปอยู่มากมายบนแผนที่ของทัสคานี ทำให้การไปเก็บภาพในจุดภาพโปสการ์ดไม่ยาก แต่ต้องคำนวนเวลาที่เหมาะกับแสงดีๆเพื่อให้ได้ภาพที่สวยที่สุด มิเพียงภาพ Landscape เรายังสามารถถ่ายภาพที่เป็นเหมือน Abstract ลายเส้นได้มากมายบนเนินเขารอบๆ ที่ Val D'Orcia
สำหรับตัวเองแล้ว การเที่ยวแนวธรรมชาติเห็นว่าเหมาะกับการเที่ยวแบบทริปถ่ายภาพมากที่สุด เพราะไม่ได้มีประวัติศาสตร์หรือสถาปัตยกรรมให้ศึกษา หากจะดื่มดำกับบรรยกาศโดยรอบ ควรหาอะไรทำเพื่อให้สายตาและหัวใจของเราได้บันทึกความทรงจำของทิวทัศน์บรรยากาศได้อย่างละเอียด เช่นถ่ายรูป วาดภาพหรือเขียนบทกวี ซึ่งง่ายสุดน่าจะเป็นถ่ายภาพ เก็บภาพของสิ่งที่ตาเราเห็น ทุกเช้าที่ฝืนใจตื่นขึ้นมาไปตั้งกล้องถ่ายแสงเช้าตั้งแต่ตี 3ครึ่ง จะรู้สึกมห้ศจรรย์กับท้องฟ้าที่เปลี่ยนสีตลอดเวลาตอนย้ำรุ่ง อยากให้คนอื่นๆได้เห็นความงามนั้นบ้าง
ช่วงพฤษภาคม-มิถุนายน จะมีทุ่งดอกป๊อปปี้ขึ้นอยู่ทั่วไปในยุโรป ดอกป๊อปปี้ที่จริงเป็นวัชพืชพันธุ์หนึ่ง งอกขึ้นมาเองในพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ และถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของทหารผ่านศึกตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง มีชื่อเรียกว่า Remembrance Poppy เพราะเป็นดอกที่ขึ้นมาเองในพื้นที่ที่เคยเป็นสนามรบ เมล็ดของดอกป๊อปปี้มีสรรพคุณในการบรรเทาความเจ็บปวด
ดอกป๊อปปี้ถูกปลุกมานานแล้วในยุโรปตะวันออก ว่ากันว่าชาวสุแมเรียน Sumerian เป็นชนชาติแรกที่นำเมล็ดมาใช้เป็นฝิ่น บรรเทาอาการปวดและให้ความเคลิบเคลิ้ม ดอกฝิ่นถือว่าเป็นดอกป๊อปปี้พันธุ์หนึ่ง (ต่างตรงที่มี 4 กลีบและร่วงง่าย เมื่อดอกไม้ร่วงกรีดยางสีขาวออกมาสกัดเป็นฝิ่นได้) ปัจจุปันห้ามปลูก ในภาษาดอกไม้ดอกป็อบปี้สีแดงหมายถึง "ฉันจะเป็นกำลังใจให้คุณเสมอ"
Sienna
การไปเยือนทัสคานีต้องไม่พลาดเมืองเซียนนา Siena เมืองมรดกโลก UNESCO Heritage Site ซึ่งมีประวัติยาวนานย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยโรมัน ปัจจุปันเป็นเมืองท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านไอศครีมจาลัตโต้ สไตล์อิตาเลียนมากมาย
Piazza del Campo และ Torrendel Managua
เมืองตั้งอยู่บนเนินเขา และมีลานกว้างเป็นรูปวงกลมตรงกลางเมือง Piazza del Campo ซึ่งมีหอคอย Torrendel Managua ตั้งอยู่ เป็นหอสูง 112 เมตร สร้างตั้งแต่ปี คศ1338 ซึ่งถือเป็นหอที่สูงที่สุดในยุคนั้น เราได้ขึ้นไปถ่ายรูปเมืองจากมุมสูงที่นี่ สามารถมองเห็นได้ทั้งเมือง หากจะขึ้นหอนี้ให้ไปจองบัตรก่อน เพราะจำกัดคนขึ้นและต้องใช้เวลาเดินขึ้น 15-20นาที แต่คุ้มค่าที่จะขึ้นไปแม้ไม่สามารถถ่ายรูปคนกับทิวทัศน์ได้ (ดูมุมที่ถ่ายได้บนหอคอยจากรูปด้านบน)
Siena Cathedral
ส่วนที่สำคัญที่สุดของเมืองคือ โบสถ์เซียนน่า Siena Cathedral ซึ่งเป็นมาสเตอร์พีซโรมันนิส-กอติกของอิตาลี โดยเฉพาะหน้าโบสถ์ซึ่งเป็นหินอ่อนสีชมพู ภายในสวยงามและมีจิตรกรรมมากมาย (เลื่อนดูตามลูกศรด้านล่าง)
โบสถ์นี้เดิมถูกออกแบบให้อลังการมากกว่านี้มาก แต่หลังเริ่มก่อสร้างเกิดโรคระบาดและสงคราม ทำให้ไม่มีเงินสร้างต่อ ส่วนตะวันออกของโบสถ์ยังถูกทิ้งให้อยู่แบบไม่เสร็จ แต่มีบันไดให้ขึ้นไปดูวิวเมืองจากหลังคาโบสถ์ได้ ภายในโบสถ์เป็นรูปสลักโดยมาสเตอร์มากมายและสวยงามคล้ายที่ฟลอเร้นซ์ ถ้าเสร็จคงจะอลังการขนาดไหน
ทัสคานีเป็นแหล่งที่เที่ยวได้ตลอดปี แต่จะสวยที่สุดช่วงหน้าร้อน เหมาะกับการเช่าบ้านพักแบบเช่าเป็นหลัง มีครัวเป็นของตัวเองเป็นฐาน แล้วขับรถเที่ยวไปรอบๆชมทิวทัศน์ที่งามดั่งภาพวาดสีน้ำมัน จะมีตลาดเล็กๆและร้านขายของชำท้องถิ่นที่เราจะอยากซื้อของสดมาปรุงเอง ลองชิมผักท้องถิ่นสดๆมาทำเป็นสลัดง่ายๆ นั่งจิบไวน์คุยกับเพื่อนๆ เหมือนที่ชาวอิตาเลียนเรียกว่า "La Dolce Vita" หรือ Sweet Life ชีวิตแสนสุข
การเตรียมตัว
หลายคนอาจไม่รู้ว่ายุโรปช่วงหน้าร้อน แดดแรงและร้อนไม่แพ้บ้านเรา สิ่งที่ควรเตรียมไปจากประเทศไทยคือครีมกันแดด ยุโรปมีครีมกันแดด แต่ไม่มีหลากหลายแบบหรือจำนวน SPF เยอะเท่าของเราและส่วนใหญ่จะเหนียว เนื่องจากอากาศเขาแห้ง ครีมที่เหนียวจะติดทนกว่าไม่ระเหยง่าย แต่เราอาจจะไม่คุ้นเคยและรู้สึกรำคาญได้ ถ้าใช้แบรนด์ญี่ปุ่นหรือเกาหลีที่เนื้อบางเบา แนะนำให้ทาวันละหลายครั้งทุก 3-4 ชั่วโมงครั้งเพื่อว่าจะปกป้องต่อเนื่อง และเพราะรถยนต์ก็ไม่ติดฟิลม์กันยูวี แนะนำใส่ปลอกแขนกัน UV เวลาออกไปข้างนอกหรือยกกล้องถ่ายรูปจะได้ไม่เกรียมแดด
Behind the Scene
ช่วงฤดูร้อนของยุโรปมีช่วงเวลากลางวันที่ยาวมาก แดดจัดและปีนี้ก็จัดเป็นปีที่ร้อนที่สุดด้วย ด้วยการที่เป็นทริปถ่ายภาพ ต้องออกไปล่าแสงเช้า แสงเย็น และทางช้างเผือก ช่วงนี้พระอาทิตย์ขึ้นตี5 และตก 3ทุ่ม ทางช้างเผือกขึ้น 2-5 ทุ่ม ไม่ต้องนอนกลางคืนกัน กว่าจะได้กลับมาอาบน้ำนอนก็ตี 1 และตื่นใหม่ตี 3 เพื่อออกไปตั้งกล้องรอแสงอีก
เราจะถ่ายภาพเช้าเสร็จราว 9 โมงเช้าและเก็บของกลับมาทานข้าวเช้าแบบฟินๆจากการถ่ายแสงเช้าตอน 10โมง จากนั้นก็แยกย้ายอาบน้ำแล้วนั่งจิบกาแฟดูรูปหรือแอบงีบถึงบ่าย 3 ออกเดินทางกันใหม่ เพื่อไปตามหาจุดถ่ายช่วงบ่ายและแสงเย็น กิจกรรมยุ่งมาก การเที่ยวแบบ Photo Trip ซึ่งไปเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 6 คนพร้อมหัวหน้าคณะ Photo Guide 1คน เป็นการเดินทางอีกรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการถ่ายรูป จบทริปได้ภาพสวยแน่นอน
Credit: ภาพสวยๆที่ถ่ายมาได้ในทริปนี้ต้องขอบคุณ Hnoom Patcha และ Atip Rungsirisap
Kommentare